Sum 41: Chuck รีวิว (คารวะนายชัค)

อัลบั้มที่เดอริกบอกว่าหนักที่สุดและเบาที่สุดของ Sum 41 และนี่คือผลลัพธ์จากการที่ไปถ่ายทำสารคดีที่คองโกจนเกือบเอาตัวไม่รอด ชื่ออัลบั้มนี้ได้มาจากชื่อของ Chuck Pelletier เจ้าหน้าที่ของ U.N. ผู้ฝ่าดงกระสุนไปช่วยทั้งสี่(และบุคคลที่เกี่ยวข้อง)ออกมาอย่างปลอดภัย
1. Intro แทร็คบรรเลงกีต้าร์ช้าๆหม่นๆ ที่ทำออกมาได้เพราะ(แบบดาร์คๆ)เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
2. No Reason ป็อปพังก์เกรี้ยวกราดมันๆ ที่เดฟแอบใส่ริฟฟ์เมทัลไปแบบเนียนๆ เดอริกก็ร้องไว้ได้แสบทรวง ขณะที่พาร์ทริธึ่มอย่างโคนกับพี่ตีฟยังทำหน้าที่ได้ไม่บกพร่อง
3. We're all to blame ซิงเกิลแรกจากอัลบั้มนี้ที่ดูจะสื่อภาพรวมของอัลบั้มนี้ได้ดีที่สุด ท่อนหนักก็ใส่ไม่ยั้ง ท่อนเบาๆก็ป็อปได้สุดๆเช่นกัน เนื้อหาก็เอามาจากสงครามกลางเมืองที่พวกเขาไปสัมผัสมาโดยตรง "คุณจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างไร ในเมื่อเรามีส่วนผิดด้วยกันทั้งนั้น" (We're all to blame)
4. Angels with dirty faces ยังคงอัดกันแหลกลาญกับสปีดพังก์สุดมัน เดอริกร้องระบายอารมณ์ออกมาเต็มที่เลยทีเดียว
5. Some Say เพลงขายๆเบาๆพี่ๆเขายังมีให้ฟังนะครับ กับเพลงจังหวะกลางๆมีสาระ แต่ฟังติดหูและไม่เลี่ยน
6. The bitter end ตัดฉับมาที่เพลงสุดโหดของอัลบั้มนี้ สปีดเร็วจี๋ ริฟฟ์กีต้าร์คมๆ เนื้อหาเกี่ยวกับความวุ่นวายในสงคราม ให้ตายครับ ผมนึกว่าฟังงานของวงเมทัลวงไหนสักวง โซโล่ของเดฟปั่นกระจุย เสียงร้องของพี่เดอริกก็ทำให้เพลงนี้เดือดขึ้นมาอีกระดับได้เลย
7. Open your eyes กลับมาป็อปพังก์ให้หายใจกันบ้าง พี่สตีฟแอบโชว์ลูกเล่น ไฮแฮท นิดๆ ถือว่าเป็นเพลงที่ดูจะใกล้เคียงกับซาวนด์ยุคแรกๆของวงมากหน่อย
8. Slipping away เพลงช้าๆ เหงาๆลอยๆ อีกมุมที่ไม่ค่อยมีให้เห็นกันบ่อยนัก แอบมีใส่เครื่องสายทำให้เพลงดูมีมิติขึ้นมา
9. I'm not the one อินโทรมาหลอกให้ตายใจว่าจะเจอเพลงจังหวะชวนโดดโจ๊ะๆหน่อย ที่ไหนได้ เพลงค่อยๆไล่น้ำหนักจากพังก์ๆไปอัดเป็นเมทัลเต็มตัวช่วงกลางเพลง เดอริกแหกปากได้สุดคอหอยมาก อีกเพลงที่ชอบมากเป็นการส่วนตัว
10. Welcome to hell เพลงสั้นๆกระชับฉับไวอัดให้ตายกันไปข้าง แทร็คนี้งานเข้าพี่ตีฟกับโคนมือเบสเต็มๆ เพราะต้องมีท่อนโซโล่เบส เบิ้ลกระเดื่องกันเป็นระยะ
11. Pieces เปลี่ยนอารมณ์กันอย่างรวดเร็วกับเพลงช้าบัลลาดกับเนื้อหาคมๆเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ที่เดอริกยังคงถ่ายทอดออกมาได้ดีเยี่ยม
12. There's no solution ไหนๆจะหวานแล้วต่อกันที่เพลงนี้อีกเพลง บัลลาดร็อคหวานๆแรงๆในแนวถนัดของพวกเขา ท่อนคอรัสติดหูชะงัดนัก
13. 88 ชื่อเพลงแปลกๆที่ไม่ได้สื่ออะไรในเนื้อเพลงเลย (88 คือ Tempo ช่วงสโลว์ของเพลงนี้นั่นเอง) กับป็อปพังก์แนวถนัดของวง ก่อนที่ท้ายเพลงจะกลายเป็นโชว์ลูกหนักกันไป กระเดื่องเบิ้ลแหลก กีต้าร์ เบส รัวกันยิก ที่ขาดไม่ได้กับท่อนโซโล่เท่ๆของเดฟอีกเช่นเคย และผ่อนน้ำหนักกลายเป็นซาวนด์หลอนๆไปจนจบเพลง (ซะอย่างงั้น)

Comments

Popular posts from this blog

Avenged Sevenfold Live in Bangkok 2015

Sum 41: Underclass Hero (จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญมาเยือน)

New Found Glory: Resurrection (หนึ่งสมาชิกที่หายไปแต่ผลงานข้างในยังคงเดิม)