Avenged Sevenfold: Hail To The King (เมื่อดนตรีฮาร์ดร็อคกำลังจะกลับมา?)


Avenged Sevenfold: Hail To The King (Review)
อีกหนึ่งอัลบั้มที่คอเมทัลรุ่นใหม่รอคอยกันมานาน โดยการกลับมาคราวนี้มีการเปลี่ยนแปลงมือกลองจาก Mike Portnoy ที่มาช่วยบันทึกเสียงอัลบั้มที่แล้วมาเป็น Arin Ilejay ซึ่งหมอนี่ก็ออกทัวร์กับวงในอัลบั้ม Nightmare มาสักพักใหญ่ๆแล้ว โดยซาวนด์โดยรวมของอัลบั้มนี้ผมขอให้ลืม A7X ในแบบเก่าๆไปให้หมดสิ้น เพราะพวกเขาได้นำพาซาวนด์ดนตรีแบบ Heavy Metal, Hard Rock ยุค 80 มาฝากกันแบบเต็มเหนี่ยว งานนี้ใครชอบเพลงยุคนั้นน่าจะกระดี๊กระด๊าเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เสียเวลาอ่านไปมากกว่านี้ ไปดูกันเลยครับว่าแต่ละเพลงจะเป็นไงกันบ้าง
1.Shepherd Of Fire เพลงนี้ดูจะคล้ายกับงานเก่าๆของพวกเขามากที่สุดแล้ว กับริฟฟ์กีต้าร์หลอนๆ โซโล่ของ Synyster ยังหวือหวาไม่มีตกหล่น ท่อนคอรัสติดหู พาร์ทริธึ่มแน่นปึ้ก ถือว่าตามมาตรฐานของวง
2.Hail To The King ซิงเกิ้ลแรกที่ปล่อยออกมาให้ได้ฟังกันก่อนหน้าอัลบั้มเต็มจะวาง อิทธิพลยุค 80 มาเต็มครับ ทั้งจังหวะ การร้อง ไลน์กีต้าร์ ถ้าจะบอกว่าพวกเขาอยากจะทำซาวนด์แบบนี้มานานแล้วก็คงไม่ผิดอะไร (ในอัลบั้มก่อนๆ มีแอบหยอดๆไว้บ้าง) แต่ฟังแล้วก็ยังเป็นงานของ A7X อยู่ดี
3.Doing Time อินโทรขึ้นมาฟังดูเก๋าพอตัวเลยครับ จังหวะเร่งขึ้นมาจากเพลงที่แล้วสักหน่อย สองมือกีต้าร์สับคอร์ดได้ติดซอกหูดีเหลือเกิน แหม่ถ้ามี Axl Rose มาแจมด้วยคงจะเป็นอะไรที่เพอร์เฟ็กต์มาก การร้องของ M. shadow ก็ถอดอารมณ์ยุคนั้นมาเลยทีเดียว
4.This Means War เพลงนี้ทำผมแทบสะดุ้งเมื่อได้ยินเมนริฟฟ์ ริธึ่ม นี่ผมไม่นึกถึงเพลงอื่นเลยนอกจาก Sad But True ของ Metallica แต่ช้าก่อนผมไม่ได้หมายความว่าทางวงไปลอกมานะครับ เพียงแต่การเรียบเรียงมันมาทางเดียวกัน และผมก็ไม่คิดว่าทางวงจะสิ้นคิดไปก๊อปวงระดับนั้นแน่ๆครับ น่าจะเป็นการคารวะมากกว่า อย่างไรก็ดีท่อนคอรัสทรงพลังดีครับ
5.Requiem หลอนกันตั้งแต่ชื่อเพลง กับจังหวะเนิบๆแน่นๆ ที่ M.Shadows ร้องกดๆเครียดๆได้อารมณ์เฮฟวี่ร้อนผ่าว 
6.Crimson Day เป็นเพลงบัลลาดที่ทางวงมักจะทำไว้เพลงละอัลบั้มเสมอๆ กับทำนองหวานๆ โซโลบาดลึก คอรัสติดหู น่าจะเป็นซิงเกิ้ลฮิตได้ไม่ยากอีกเพลง สามารถคาดหวังได้อยู่แล้วครับกับเพลงลักษณะแบบนี้
7.Heretic โดดเด่นกับพาร์ทลีดกีต้าร์ ที่แทรกริฟฟ์เด็ดๆปูไปตลอดทาง เมื่อมาบวกกับเสียงร้องทำให้เพลงนี้ดูมีพลังขึ้นมา ท่อนโซโล่คู่สวยๆก็มีแทรกๆมาให้เห็นเป็นระยะ ตา Syn ยังโซโล่ได้แสบทรวงเช่นเคย อีกเพลงเด่นครับ
8.Coming Home อินโทรด้วยไลน์กีต้าร์หม่นๆคู่ไปกับเสียงร้อง ก่อนที่เบส กลองจะโหมกระหน่ำกันแบบเต็มแบนด์ เป็นอีกเพลงที่พาร์ทริธึ่มอัดกันได้เมามันมากครับ โซโล่มีให้ฟังกันจนอิ่ม
9.Planets ริฟฟ์ออกดาร์คหน่อย มูฟเมนท์ในเพลงน่าสนใจมากครับ เสียงร้องก็สู้กับดนตรีได้ดีเหลือกิน และที่ขาดไม่ได้ท่อนโซโล่สุดเฟี้ยวจากคู่หูมือกีต้าร์สุดหล่อ Syn กับ Zacky
10.Acid Rain และเพลงส่งท้ายอัลบั้มทำได้ทั้งเศร้าและไพเราะ โดยการใช้เปียโนเป็นตัวหลักในการเดินเรื่อง คลอด้วยเสียงเครื่องสาย ท่อนโซโล่บาดลึกได้อารมณ์ เป็นอีกเพลงที่นักร้องนำยังเค้นพลัง ฟีลได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

อัลบั้มนี้น่าจะทำให้ทางวงกลายสภาพเป็นวงรุ่นใหญ่ได้อย่างไม่เคอะเขิน ด้วยการหยิบเอาซาวนด์แบบฮาร์ดร็อก เฮฟวี่ มาใช้แบบเต็มๆ และที่สำคัญไปกว่านั้นพวกเขาก็ทำมันออกมาได้ "ถึง" กว่าวงยุคนั้นหลายๆวงเสียอีก จะบอกว่างานชุดนี้เหมาะกับคนที่นิยมร็อคยุคเก่าๆหน่อยก็น่าจะใช่ แต่กับแฟนเพลงร็อคยุคใหม่ๆก็ต้องบอกว่าใช่อีกเหมือนกัน เป็นอัลบั้มที่ฟังได้ทุกยุค ทุกเพศ ทุกวัย จริงๆครับ


Comments

Popular posts from this blog

Avenged Sevenfold Live in Bangkok 2015

Sum 41: Underclass Hero (จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญมาเยือน)

New Found Glory: Resurrection (หนึ่งสมาชิกที่หายไปแต่ผลงานข้างในยังคงเดิม)