Trivium : Silence In The Snow


ถ้าลองย้อยกลับไปสักประมาณสักสิบปีก่อน ช่วงที่ดนตรีเมทัลคอร์กำลังอยู่ในช่วงเบ่งบาน แน่นอนครับว่าในเวลานั้น Trivium คืออีกวงที่สื่อต่างๆให้การจับตามองเป็นอย่างมากในฐานะวงเมทัลรุ่นใหม่มาแรง  มาถึงวันนี้พวกเขาผ่านร้อนหนาวกันมาพอควรจนมาถึงอัลบั้มล่าสุดซึ่งเป็นสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 7 ไปเรียบร้อยแล้ว

แนวดนตรีของพวกเขาที่ผ่านๆมาจะยืนพื้นด้วยเฮฟวี่ เมทัลเป็นหลัก โดยที่มีปรับเปลี่ยนแนวทางบ้างตามสมควร และการกลับมาครั้งนี้ก็เช่นกันครับนอกจากการเปลี่ยนมือกลองจาก Nick Agusto มาเป็น Mat Madiro แล้ว สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดก็คือ ความหนักหน่วงที่ถูกลดทอนไปค่อนข้างพอสมควร

ไม่ได้หมายความว่าอัลบั้มนี้จะเบาหวิวและไม่เหลือความเป็น Trivium อยู่เลย เพียงแต่การเปลี่ยนแปลงหนนี้อาจนิยามได้ว่า "ไม่หนักหน่วงแต่หนักแน่น" คงพอจะเห็นภาพได้ชัดเจนที่สุด ผ่านทางบทเพลงอย่าง Silience In The Snow เพลงจังหวะกลางที่ออกเฮฟวี เมทัลยุค 80 กันเต็มเหนี่ยว อุดมไปด้วยริฟฟ์โยกๆคมๆ โซโล่หนักแน่นสวยงาม ท่อนคอรัสติดหูทรงพลัง, Blind Leading The Blind เพิ่มความเร็วขึ้นอีกนิด ขณะอารมณ์เพลงยังคงไม่หนีจากแทร็กก่อนหน้าเท่าไรนัก, Dead And Gone ริฟฟ์ยานกดต่ำ จังหวะชวนโยกกระแทกกระทั้นเล็กๆ ก่อนที่จะแทรกท่อนคอรัสจะติดหูตามสูตร, Until The World Goes Cold ที่ค่อนไปทางโพสต์ กรันจ์หนักๆ ที่ฟังแว้บแรกแอบนึกถึง Breaking Benjamin ได้ไม่ยาก ยังดีที่ว่าได้ท่อนโซโล่ระดับเทพของคู่มือกีต้าร์อย่าง Matt และ Corey, The Thing That's Killing Me กับ Breathe In The Flames ที่อินโทรสับริฟฟ์ยังกะ Metallica ก่อนจะไหลกลับเข้าแนวถนัดของวงแบบเนียนๆ เป็นอีกเพลงที่ดูใกล้เคียงกับงานเก่าอยู่บ้าง

เพลงอื่นๆที่ไม่ได้กล่าวถึงไปก็อยู่ในระดับเดียวกันทั้งนั้น งานนี้ไม่มีเศษเพลงยัดมาให้เพื่อเต็มๆอัลบั้มแน่นอน สำหรับใครที่ชอบดนตรี เฮฟวี เมทัลแบบเน้นๆ ที่ปราศจากเสียงสำรอกก็จัดมาไว้ในคอลเล็กชั่นได้เลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน (ได้ข่าวว่า แมท ร้องนำ ลงทุนไปเรียนร้องเพลงเพื่อนำมาใช้ในอัลบั้มนี้) ส่วนใครที่เป็นแฟนของพวกเขาอยู่แล้วก็ไม่ควรพลาดเช่นกันครับ



Comments

Popular posts from this blog

Avenged Sevenfold Live in Bangkok 2015

Sum 41: Underclass Hero (จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญมาเยือน)

New Found Glory: Resurrection (หนึ่งสมาชิกที่หายไปแต่ผลงานข้างในยังคงเดิม)