Weezer: OK Human (Review)



เรียกได้ว่าคึกกันเกินวัยจริงๆสำหรับวงอัลเทอร์เนทีฟจอมเนิร์ดที่อยู่ในวงการกันมาอย่างยาวนานอย่าง Weezer ซึ่งอันที่จริงตามกำหนดเดิมพวกเขามีแผนจะวางอัลบั้ม Van Weezer ก่อนหน้าอัลบั้มนี้ แต่ทางวงให้เหตุผลเนื่องจากผลกระทบจาก COVID-19 จึงขอเลื่อนงานชุดนั้นออกไปก่อน แต่(อีกที)สันนิษฐานว่าพวกเขาคงเครียดกับสถานการณ์โรคระบาดจนทำไปทำมาได้อัลบั้ม OK Human ขึ้นมาอีกอัลบั้มและจัดการเอามาปล่อยให้ฟังลัดคิวกันซะอย่างนั้นเฉยเลย (เอ้อ เอากะพวกพี่เขาสิ)


โดยที่งานชุดนี้เป็นสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 14 ก็ไม่วายที่ชื่ออัลบั้มดันไปล้อกับ OK Computer ของวงชื่อดังอย่าง Radiohead เสียอีก หาก OK Computer เป็นการหวาดวิตกต่อเหตุการณ์อนาคต (ซึ่งในขณะนั้นคือเรื่องของ Y2K) แต่กับ OK Human คือการย้อนกลับไปหาอดีตโดยผ่านวิธีการทำดนตรีแบบเก่าๆที่ว่ากันว่าพวกเขาใช้เครื่องดนตรีในการอัดเสียงที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าให้น้อยที่สุด ซึ่งแน่นอนเราคงต้องจำใจยอมรับว่าจะไม่ได้ยินกีตาร์เสียงแตกแรงๆสนุกๆแม้เพียงสักแอะเดียว และกลับกันทุกสรรพเสียงที่เราจะได้ยินกลับมาจาก เปียโน อะคูสิกกีตาร์ และบรรดาเครื่องสายกว่า 30 ชิ้น เป็นแกนหลักของงานชุดนี้ ไหนจะยังถ่อไปบันทึกเสียงกันถึง Abbey Road สตูดิโอในตำนานซึ่งใช้เป็นที่สร้างวงตำนานอย่าง The Beatles มาแล้ว และเดาว่าคงโดนกลิ่นอายจากสถานที่นั้นสิงเข้ามาในงานเพลงชุดนี้ไปเรียบร้อยแล้ว


โทนหลักๆของงานชุดนี้ Rivers Cuomo และผองเพื่อนได้จัดแจงแต่งองค์ทรงเครื่อง Weezer แทบไม่เหลือเค้าเดิม อัลเทอร์เนทีฟของถนัดที่คุ้นเคยถูกแทนที่ด้วยความละเมียดในแบบ Baroque Pop, Orchestra, Classical ทุกอย่างถูกขมวดด้วยท่วงทำนองป๊อปติดหูในแบบ Weezer อีกที ผ่านห้วงเวลาราวครึ่งชั่วโมงกับ 12 บทเพลง เริ่มด้วย All My Favorite Songs บัลลาดออเคสตร้าเนื้อหาสุดย้อนแย้ง เมโลดี้หม่นๆคลอไปกับเครื่องสายนานาชนิด, Aloo Gobi ขยับจังหวะคึกคักนิดหน่อยกับเพลงเนื้อหาให้กำลังใจ โดดเด่นกับการประสานเสียงเป็นเลเยอร์, Numbers บัลลาดสุดสุขุมนุ่มลึกแฝงด้วยเนื้อหาประชดประชัน ที่คนมักตัดสินกันจากตัวเลขต่างๆเพื่อเป็นเครื่องชี้วัด วงออเคสตร้าโอบอุ้มบรรยากาศให้เพลงดูเศร้าได้เป็นอย่างมาก





Playing My Piano หม่นเศร้ากันต่อด้วยบัลลาดเปียโน เมโลดี้ต่างๆที่ฟังดึกๆชวนหลอนเอาได้ง่ายๆ, Mirror Image บรรยากาศใหญ่โตแบบ สเตเดี้ยม ร็อค ที่ถึงแม้จะเป็นแทร็คสั้นๆแต่ก็ช่วยคั่นอารมณ์หม่นๆก่อนหน้าได้ดี, Screens แทร็คที่ดูจะใกล้เคียงกับวันวานของพวกเขาที่สุดแล้ว กับริฟฟ์ยุกยิกซนๆที่ใช้ขับเคลื่อนเป็นหลัก, Bird With A Broken Wing โฟล์ก ป๊อปยุค 70’s ที่ร้อยเรียงด้วยเนื้อหาที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณจากปลายปากกาของ Rivers Cuomo ยังไม่นับพาร์ทเครื่องสายที่ช่วยให้เพลงนี้คลาสสิคขึ้นไปอีก, Here Comes The Rain ค่อนข้างย่อยง่ายฟังดูแง่บวกที่สุดและเผลอแอบนึกถึงวงอย่าง Fleetwood Mac ขึ้นมาเฉยเลย


ถือเป็นอีกอัลบั้มที่น่าจะเป็นการทดลองแบบสุดทางอีกครั้งของ Weezer ซึ่งระยะหลังพวกเขาออกอัลบั้มกันถี่มาก ราวกับแก้บนยังไงยังงั้น แต่กลับทำงานชุดนี้ออกมาได้เป็นที่น่าพอใจไม่ได้สุกเอาเผากินแต่อย่างใด ใครมักบอกพวกเนิร์ดจะเชยเฉิ่มไม่น่าสนใจ แต่กลับวงดนตรีวงนี้ไม่ใช่แบบนั้นแม้แต่น้อย และในอนาคตน่าจะยังมีเซอร์ไพรส์มุกเด็ดๆจากพวกเขาอีกเพียบเลยล่ะ

Comments

Popular posts from this blog

Avenged Sevenfold Live in Bangkok 2015

Sum 41: Underclass Hero (จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญมาเยือน)

New Found Glory: Resurrection (หนึ่งสมาชิกที่หายไปแต่ผลงานข้างในยังคงเดิม)